Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14022037  

สัทศาสตร์เบื้องต้น

 
 
การต่อเสียง (juncture)

 
     ลองพยายามพูดประโยคต่อไปนี้ Iscream, you scream, we all scream for ice-cream แม้ว่าคําที่ขีดเส้นใต้นี้จะมีหน่วยเสียงเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่ออกจะลุ่มลึกอยู่ในที ที่ทําให้ เราแยกออกว่าคําไหนเป็นคําไหน ตรงไหนเป็นการกระทําและตรงไหนเป็นของหวาน ความแตกต่างอันลุ่มลึกในการใช้หน่วยเสียงนี้ยังพบได้อีกในคําที่ขึดเส้นใต้ในประโยคสองประโยคต่อไปนี้

The clock keeps ticking. / /
The kids keep sticking things on the wall. / /
ความแตกต่างที่เกิดขึ้นในการออกเสียงคําที่ขีดเส้นใต้ แม้ว่าจะมีหน่วยเสี ยงเดียวกันนั้นเรียกว่าเป็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นที่ ช่วงต่อ (juncture) เมื่อทําการวิเคราะห์ตัวอย่างดังกล่าวข้างต้นให้ ละเอียดมากขึ้น จะพบว่ามีความแตกตางดานความยาวของเสียงสระความหลากหลายของการลงน้ําหนักพยางค์การออกเสียงพยัญชนะที่มีระยะเวลาต่างกันและด้านความหลากหลายของเสียงย่อยในหน่วยเสียงเหมือนกัน ดังนั้นถึงแม้จะมีหน่วยเสียงเหมือนกันแต่ผู้ฟังจะไม่มีปัญหา (ส่วนใหญ่แล้ว) ในการบอกว่ามีช่วงต่อกันตรงไหนและบริบทก็มีความสําคัญเด่นชัดในสถานการณ์เช่นนี้ ตัวอย่างอื่นๆ ที่ มีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น เช่น
 

That’s my train.
It might rain.
The great apes
The grey tapes

และในประโยคคู่นี้

Can I have some more ice?
Can I have some more rice?
 
     การโยงเสียง /r/ อาจทําใหhเกิดความสับสนได้เมื่อมีช่วงต่อ แต่บริบทและความแตกต่างอันลุ่มลึกของการออกเสียงจะช่วยให้เราตัดสินได้ว่าเราได้ยินเสียงใด แต่ผู้เรียนอาจไม่มีพื้นความรู้ มากพอที่จะสามารถแยกความแตกต่างได้ พยัญชนะต่างๆ มักจะดูเหมือนว่าถูกดึงดูดข้ามขอบเขตของคําไป ตัวอย่างเช่น

You’ll need an egg, an olive and anchovy. (… a negg, a nolive and a nanchovy)
Put it on. (pu ti ton)

แน่นอนอยู่แล้วที่ไม่มีคําว่า negg, nolive และ nanchovy ในภาษาอังกฤษ แต่ในบางครั้งความบังเอิญก็เกิดขึ้นได้เมื่อมีช่วงต่อ และทําให้ผู้ฟังได้ยินคําที่ไม่ได?ตั้งใจ ตัวอย่างเช่น

It’s no joke. (snow)
It’s tough. (stuff)

มีตัวอย่างเรื่องการฟังผิ ดแบบนี้ ซึ่งเป็นที่ รู้จักกันดีก็คือในเนื้อเพลงของนักร้องคนดังชื่อ Jimi Hendrex เพลง Purple Haze ซึ่งมีเนื้อร้องว่า
 
 ‘Scuse me, While I kiss the sky. แต?มีผู้ฟังเป็น ‘Scuse
me, While I kiss this guy. ตรงนี้มีการกลมกลืนเสียงเกิดขึ้นคือเสียง / k/ ในคําว่า sky ถูกกลืนกลายเป็นเสียง /g/
 
 


หน้าที่ :: 2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved