"Extra Crazy" เป็นคำที่อาจใช้เพื่อเน้นย้ำถึงความบ้าคลั่งหรือความแปลกประหลาดของบางสิ่งบางอย่างให้มากขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อนำมารวมกับคำว่า "คำทำนาย" ("kham thamnai" - prediction) ก็จะสื่อถึง คำทำนายที่ดูเหนือจริง, เหลือเชื่อ, หรือเป็นไปได้ยากมากๆ จนอาจถูกมองว่า "บ้าคลั่ง" เป็นพิเศษ

ดังนั้น "Extra Crazy และคำทำนาย" จึงอาจหมายถึง:

• คำทำนายที่แปลกประหลาดและไม่น่าจะเป็นจริง: เช่น การทำนายว่าจะมีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกในวันพรุ่งนี้พร้อมกับร้องเพลงชาติ
• สถานการณ์ที่คำทำนายนั้นเกิดขึ้นในบริบทที่บ้าคลั่ง: เช่น มีคนทำนายว่าฝนจะตกหนักมาก และปรากฏว่ามีลูกเห็บขนาดเท่าลูกเทนนิสตกตามมาจริงๆ
• ชื่อของเนื้อหาหรือเรื่องราว: อาจเป็นชื่อบทความ, วิดีโอ, หรือเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับคำทำนายที่ดูบ้าคลั่ง

คำทำนายวันสิ้นโลกแบบ "Extra Crazy" มักจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ หรือการตีความปรากฏการณ์ธรรมชาติและเรื่องราวทางศาสนาแบบสุดโต่ง นี่คือตัวอย่างบางส่วนของคำทำนายวันสิ้นโลกที่เข้าข่าย "Extra Crazy":

• การบุกรุกของมนุษย์ต่างดาวจากดาวพลูโต: คำทำนายนี้เชื่อว่าเมื่อดาวพลูโตโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่กำหนด มนุษย์ต่างดาวที่ซ่อนตัวอยู่จะบุกโลกเพื่อยึดครอง
• การตื่นขึ้นของสัตว์ประหลาดยักษ์ใต้ทะเล: บางคนเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตโบราณขนาดมหึมาหลับใหลอยู่ใต้ทะเลลึก และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด พวกมันจะตื่นขึ้นมาทำลายโลก
• โลกจะกลายเป็นแซนวิช: คำทำนายที่ไร้เหตุผลนี้บอกว่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะพลิกกลับ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกบีบอัดจนโลกกลายเป็นเหมือนแซนวิชขนาดยักษ์
• ไวรัสซอมบี้จากอวกาศ: ทฤษฎีนี้เชื่อว่าจะมีไวรัสร้ายแรงจากอวกาศตกลงมาบนโลกและเปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นซอมบี้
• การล่มสลายของโลกเนื่องจากผีเสื้อกระพือปีก: อ้างอิงถึง "ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก" ในทางที่ผิดๆ โดยเชื่อว่าการกระพือปีกของผีเสื้อในที่แห่งหนึ่งจะนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงระดับโลกในที่สุด

คำทำนายเหล่านี้มักจะไม่มีมูลทางวิทยาศาสตร์หรือหลักฐานใดๆ รองรับ และเป็นเพียงจินตนาการที่สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงหรือความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น

คำพยากรณ์ของชาวมายาที่โด่งดังที่สุดคือ คำพยากรณ์วันสิ้นโลกในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกในช่วงนั้น อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจนี้คลาดเคลื่อนจากความหมายที่แท้จริงของปฏิทินมายา

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "วันสิ้นโลก" ในปี 2012:

• ปฏิทินรอบยาว: ชาวมายามีระบบปฏิทินที่ซับซ้อนหลายแบบ หนึ่งในนั้นคือ ปฏิทินรอบยาว (Long Count Calendar) ซึ่งนับเวลาเป็นรอบใหญ่ รอบละประมาณ 5,125 ปี
• จุดสิ้นสุดของรอบ: วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 เป็นเพียงจุดสิ้นสุดของรอบปฏิทินรอบยาวรอบหนึ่ง ไม่ได้หมายถึงจุดสิ้นสุดของโลก
• การเริ่มต้นใหม่: ชาวมายาเชื่อว่าเมื่อครบรอบปฏิทิน จะเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ หรือวัฏจักรใหม่ เหมือนกับการเปลี่ยนศักราชใหม่ ไม่ใช่การล่มสลายของทุกสิ่ง

คำพยากรณ์อื่น ๆ ของชาวมายา (เท่าที่มีการตีความ):

เนื่องจากระบบการเขียนของชาวมายาโบราณส่วนใหญ่ถูกทำลายไป ทำให้การตีความคำพยากรณ์อื่น ๆ เป็นเรื่องยากและมีการถกเถียงกันมาก อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อและการตีความบางประการเกี่ยวกับอนาคตตามแนวคิดของชาวมายา เช่น:

• วัฏจักรของเวลา: ชาวมายามีความเชื่ออย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฏจักรของเวลา การเปลี่ยนแปลง และการเกิดใหม่ พวกเขาเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และมีช่วงเวลาแห่งความสงบและความวุ่นวายสลับกันไป
• ความสำคัญของดาราศาสตร์: ความรู้ด้านดาราศาสตร์ของชาวมายานั้นก้าวหน้ามาก พวกเขาใช้การสังเกตการณ์ดวงดาวเพื่อกำหนดปฏิทินและอาจใช้เพื่อทำนายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา หรือฤดูกาล
• บทบาทของเทพเจ้า: ชาวมายานับถือเทพเจ้าหลายองค์ที่มีอิทธิพลต่อโลกและชีวิตมนุษย์ คำพยากรณ์บางอย่างอาจเกี่ยวข้องกับสัญญาณจากเทพเจ้าหรือการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า

สิ่งที่ควรทราบ:

• การตีความ "คำพยากรณ์" ของชาวมายาส่วนใหญ่มักมาจากการศึกษาปฏิทิน จารึกโบราณ และความเชื่อทางวัฒนธรรม ซึ่งอาจมีการตีความที่แตกต่างกันไป
• ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าชาวมายามี "คำพยากรณ์" ในลักษณะเดียวกับที่เราเข้าใจกัน (เช่น การทำนายเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงในอนาคตอันไกล)
• ความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกในปี 2012 เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมสมัยนิยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปฏิทินมายา แต่ไม่ได้สะท้อนถึงความเชื่อดั้งเดิมของชาวมายาอย่างถูกต้อง

โดยสรุป "คำพยากรณ์" ที่โด่งดังที่สุดของชาวมายาคือเรื่องวันสิ้นโลกในปี 2012 ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม ชาวมายามีความเชื่อเกี่ยวกับวัฏจักรของเวลา ดาราศาสตร์ และเทพเจ้า ซึ่งอาจถูกตีความว่าเป็นแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตได้