Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14032737  

ตามใจไปค้นฝัน

 
แชงกรีลา - ย่าติง
 
29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 56
 
 
     ทริปแบกเป้เที่ยวยูนนานสไตล์ backpack ทริปนี้เราจะเดินทางกันแบบเซอร์ๆ นั่งรถเมล์จากกรุงเทพฯ ไปจนถึงชายแดนลาว แล้วเข้าจีน เดินทางกันต่อด้วยรถเมล์ รถแท็กซี่ รถ 4x4 ในจีน เที่ยวกันแบบลุยๆ นอนง่าย กินง่าย สไตล์เรา เน้นท่องเที่ยวถ่ายภาพเป็นหลัก ..ทริปสไตล์เราไม่ใช่ทัวร์ลูกเป็ดเดินตามธง การเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับความต้องการและการตัดสินใจของพวกเราที่ไปด้วยกันเป็นหลัก จะใช้เส้นทางเดิมที่เคยไปกันมาแล้วเมื่อทริปก่อนๆ จุดหมายปลายทางคือหุบเขา "คาลากัล" หรือ "หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน" ในมลฑลเสฉวน เที่ยวกันสองมลฑลเลย โดยจะใช้เมืองจงเตี้ยน หรือ แชงกรีล่า เป็นประตูเข้าสู่ดินแดนสุดขอบฟ้าหลังคาโลก ไปยังหุบเขาสามภูหิมะอันศักดิ์สิทธิ์ เส้นทางค่อนข้างทรหดในระดับความสูง 5000 ม. ที่ต้องนั่งรถตะลุยผ่านภูเขาหิมะ ทั้งคดเคี้ยวสูงชัน สมบุกสมบัน และหนาวเย็น ไม่ใช่เส้นทางที่ทัวร์อาซิ้มอาซ้อหรือทัวร์ลูกเป็ดทั่วไปใช้กัน...


(ออกเดินทางกันคืนวันพฤหัสที่ 28 พ.ย. 56 ด้วยรถทัวร์วีไอพีจาก กรุงเทพฯ ไปเชียงของ) วันนี้ไม่นับรวมเป็นวันเดินทาง

วันแรก (29 พ.ย. 56) เชียงของ - บ่เต็น - บ่หาน - เมืองหล้า - คุนหมิง

  • ถึงเชียงของสายๆ ล้างหน้าล้างตากินข้าวเช้ารองท้องกันแล้ว ไปยื่นหนังสือเดินทางฝั่งเราแล้วขนเป้ลงเรือหางข้ามไปฝั่งบ่อแก้ว ประทับตราผ่านแดนฝั่งลาวอีกครั้ง แล้วเหมารถไปส่งที่ บ่เต็น ยื่นหนังสือผ่านแดนออกลาวเข้าจึนอีกครั้ง แล้วต่อรถไปเมืองหล้า คืนนี้นอนบนรถนอนไป คุนหมิง เราจะไปถึงคุนหมิงรุ่งเช้า ..นั่งรถกันยาวไกลเหนื่อยกันหน่อยสำหรับวันแรกนี้เหมาะสำหรับขาลุยเท่านั้นครับทริปสไตล์นี้

วันที่สอง (30 พ.ย. 56) คุนหมิง - ต้าลี่

  • หาอะไรกินรองท้องที่ร้านใกล้ๆ ท่ารถ แล้วซื้อตั๋วต่อไปต้าลี่ ถึงต้าลี่บ่ายๆ ช่วงเย็นเดินเที่ยวในต้าลี่กู่เฉิง คืนนี้นอนในต้าลี่

วันที่สาม (1 ธ.ค. 56) ต้าลี่ - จงเตึ้ยน

  • นั่งรถเมล์เที่ยวในต้าลี่ ไปเที่ยว วัดซันถา เจดีย์สามองค์ แล้วบ่ายๆ กลับมาเช็คเอาท์ เตรียมตัวเดินทาง มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังเมือง จงเตี้ยน คืนนี้นอนในรถ sleeping bus

วันที่สี่ (2 ธ.ค. 56) จงเตี้ยน

  • ถึง จงเตี้ยน เช้ามืด แบกเป้ไปเช็คอินเข้าที่พักโรงแรมใกล้ๆ แชงกรีลาบัสสเตชั่นน่ะแหละ เราจะพักนอนคืนนึงที่นี่ เอาเป้เก็บล้างหน้าล้างตาออกไปหาข้าวกิน แล้วนั่งรถเมล์ไปเที่ยว วัดจงซ้านหลินซื่อ กัน เป็นวัดลามะของชาวทิเบตอีกแห่ง ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี มีลักษณะคล้ายๆ กับพระราชวังโปตาลาในเมืองลาซาของทิเบต แต่มีขนาดที่เล็กย่อส่วนลงมา จนได้รับฉายาว่า “ทิเบตน้อย” กลับจากวัดลามะ นั่งรถเมล์เข้าไปเดินในเมืองเก่ากันเดินเล่นหาเรื่องใช้เงินไปเลือกซื้อหาพวกเสื้อผ้ารองเท้า นอทเฟส (ของก๊อปเกรดเอ) ราคาถูกๆ ไว้ไปสู้หนาวที่เขตอนุรักษ์ ย่าติง แล้วไปหาข้าวเย็นกิน อิ่มแล้วแยกย้ายกัน
    ใครเหนื่อยจะกลับที่พักก็เรียกแท็กซี่กลับโรงแรม ใครยังไม่ง่วงจะนั่งจิบเบียร์ชิงเต่าหรือต้าลี่เบียร์กันต่อก็ว่ากันตามสะดวกครับ แต่อย่าให้ดึกนักเพราะเราจะต้องออกเดินทางตลุยข้ามเขาหิมะไป เสฉวน กันแต่เช้า คืนนี้นอนหนาวกันที่จงเตี้ยน เมืองนี้เริ่มหนาวมากๆ อุณหภูมิต่ำกว่าสิบใกล้ศูนย์องศาแล้ว

วันทีห้า (3 ธ.ค. 56) จงเตี้ยน - ยี่หวา

  • กินอาหารเช้าแล้วออกเดินทางกันแต่เช้า ใช้รถ 4x4 ทีมเดิม พันโซ่ล้อลุยข้ามภูเขาหิมะโดยอาศัยทางลัด ไม่ใช่ทางที่พวกทัวร์อาซ้อทั่วไปใช้กัน เพื่อช่วยย่นระยะทางและเวลา จะผ่านเทือกเขาหิมะที่มีหิมะตกอยู่ตลอดเวลา ข้ามจากฝั่งยูนนานไปฝั่งเสฉวนโดยไม่ผ่านเมือง เซียงเฉิน - เต้าเฉิน ลัดขึ้นเขาด้วยเส้นทางที่สูงถึง 4300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาเดินทางประมาณเจ็ดแปดชั่วโมง เพราะระยะทางไกล เราคงจะถึงเมือง ยี่หวา ค่ำ หาที่พักแล้วออกไปกินอาหารค่ำรองท้อง ..ยี่หวาเป็นเมืองเล็กๆร้านอาหารมีให้เลือกไม่มากนัก เราเดินทางกันมาทั้งวันแล้วหลายคนคงอยากกลับไปพักผ่อนเลย แต่หากใครที่ยังไหวจะหาที่นั่งจิบเบียร์ต้าลี่แก้หนาวกันต่อซักโหลสองโหลก็ว่ากันตามอัธยาศัยเหมือนเดิมครับ.. คืนนี้เรานอนอุ่นซุกผ้าห่มไฟฟ้ากันที่เมืองนี้ก่อนขึ้นเขตอนุรักษ์ย่าติงอีกหนึ่งคืน

วันที่หก (4 ธ.ค. 56) ยี่หวา - ย่าติง (สามภูหิมะอันศักดิ์สิทธ์แห่งหุบเขาคารากัล)

  • ตื่นกันแต่เช้าเช็คเอาท์ออกจากที่พักเลย แวะกินมื้อเช้ากันก่อนเสร็จแล้วเราเดินทางกันต่อ จากเมืองยี่หวาขึ้นไปย่าติงระยะทางประมาณสามสิบกว่ากิโล แต่ใช้เวลาค่อนข้างเยอะเพราะเส้นทางใต่ขึ้นเขาตลอดจนถึงหมู่บ้านย่าติง และมีจุดชมวิวสวยๆ ให้แวะจอดรถถ่ายภาพกันหลายจุด ก็คงถึงย่าติงประมาณเที่ยง หาที่พักก่อนเพราะที่นั่นมีที่พักไม่กี่แห่ง แบกเป้เข้าที่พักแล้วกินมื้อเที่ยงเพื่อตุนกำลังไว้เดินขึ้นเขากันในช่วงบ่าย ขึ้นไปสัมผัสความยิ่งใหญ่บนหุบเขาแห่งพระโพธิสัตว์ เซียน ไหน่ รื่อ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเขาคารากัล ระยะทางเดินขึ้นเขาประมาณสี่สิบนาที ตอนนี้ไม่มีม้าไว้ให้เช่านั่งสำหรับคนที่ไม่อยากเดินแล้ว แต่มีรถไฟฟ้ามาบริการแทน (ต้องชำระค่าบริการกันเองครับ) บรรยากาศข้างบนคือภาพของวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของ วัดชงกู่ ที่ถูกโอบล้อมด้วยสามภูหิมะอันยิ่งใหญ่ หุบเขาแห่งการภาวนาที่ได้รับการขนานนามว่า ดินแดนแห่งพระจันทร์สีน้ำเงิน ตั้งอยู่เหนือทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ใต้ฟ้าสีน้ำเงินเข้ม และภาพสะท้อนน้ำเหนือทะเลสาบไข่มุก สวยแค่ไหนไปดูกัน อยู่เก็บภาพกันจนกว่าตะวันใกล้จะตกดินเราค่อยเดินกลับลงมากินอาหารเย็น คืนนี้นอนหนาวสุดๆ กันที่โรงแรมเล็กๆ ของชาวทิเบตใกล้ๆ ทางขึ้นหุบเขาแห่งนี้ บนนี้ไม่มีโรงแรมชั้นหนึ่ง ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีผ้าห่มไฟฟ้า มีแต่ผ้านวมหนาๆ กับกองไฟไว้ให้ผิงแก้หนาวเท่านั้นครับ หนาวสุดขั้วกับอุณหภูมิที่ติดลบ น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง

วันที่เจ็ด (5 ธ.ค. 56) เต้าเฉิน - เซียงเฉิน

  • เช้านี้เราจะกลับลงจากย่าติง ดื่มกาแฟรองท้องแล้ว ค่อยเก็บของออกเดินทางกลับลงไปกินข้าวเช้ากันที่เมืองยี่หวา แล้วค่อยออกเดินทางกลับแชงกรีลา ใช้เส้นทางใหม่กลับไปทางเมืองเซียงเฉิน ผ่านเมืองเต้าเฉิน เราต้องพักนอนที่เมืองเซียงเฉินก่อนคืนนึงเพราะเส้นทางนี้ไกล ระหว่างทางยังมีวิวสวยๆ ให้ได้แวะถ่ายภาพกันอยู่บ้างแต่เป็นแค่เพียงทางผ่านเท่านั้น

วันที่แปด (6 ธ.ค. 56) เซียงเฉิน - จงเตี้ยน

  • ออกเดินทางกันต่อนั่งรถกลับจงเตี้ยน คงมาถึงจงเตี้ยนก่อนค่ำ ยังมีเวลาเหลือไปเดินเที่ยวในเมืองเก่ากันอีกรอบ ที่หน้ากู่เฉิงมีวัดลามะอยู่บนเนินเขาที่มีกงล้อมนต์ขนาดยักษ์ เดินขึ้นไปเที่ยวกัน แล้วคืนนี้เรานอนหนาวในจงเตี้ยนกันอีกคืนครับ

วันที่เก้า (7 ธ.ค. 56) จงเตี้ยน - ลี่เจียง

  • นั่งรถเมล์กลับลี่เจียง จากจงเตี้ยนถึงลี่เจียงใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง คงถึงลี่เจียงบ่ายๆ หาที่พัก ขนเป้เข้าเก็บ พักให้หายเหนื่อยแล้วเย็นๆ ค่อยออกไปเดินเที่ยวดูบรรยากาศเมืองเก่าลี่เจียงกัน จะเดินดูของ หรือหาซื้อของฝากของที่ระลึก หรือหาที่นั่งจิบเบียร์เย็นๆ ดูทัวร์ลูกเป็ดเดินไปเดินมา ก็ว่ากันตามสะดวกครับ เย็นกลับมากินอาหารค่ำพร้อมกัน หรือจะแยกกันกินก็ตามใจ คืนนี้นอนในลี่เจียงคืนแรก

วันที่สิบ (8 ธ.ค. 56) ลี่เจียง

  • วันนี้หยุดเที่ยวครับ ปล่อยฟรี พักผ่อนกันตามสบายครับ เราจะอยู่ในลี่เจียงอีกหนึ่งวัน ใครจะนอนใคร จะเดินเล่น ช๊อปปิ้งหรือทำอะไรก็ตามอัธยาศรัยเลย สบักสบอมกันมาหลายวันแล้ว รอเดินทางกลับคุนหมิงตอนค่ำ คืนนี้นอนในรถนอนครับ(ไม่มีโปรแกรมขึ้นหิมะมังกรหยก แวะลี่เจียงแค่พักผ่อนเท่านั้น)

วันที่สิบเอ็ด (9 ธ.ค. 56) คุนหมิง - เมืองหล้า - บ่หาน - บ่เต็น

  • ถึงคุนหมิงเช้ามืด ซื้อตั๋วสำหรับเดินทางกลับ เมืองหล้า-บ่หาน ไปกินข้าว ฝากของไว้แล้วไปเดินเล่นในเมืองคุนหมิงฆ่าเวลาบ่ายๆ ค่อยกลับมานั่งรอรถที่สถานี รถจะออกประมาณทุ่มนึง คืนนี้นอนบนรถนอน กลับ บ่หาน-บ่เต็น ด่านชายแดนจีน - ลาว

วันที่สิบสอง (10 ธ.ค. 56) บ่หาน - บ่เต็น - ห้วยทราย - เชียงของ - กรุงเทพฯ

  • ถึงด่านบ่-หาน เช้ามืด รอด่านเปิด ประทับตราหนังสือเดินทางผ่านแดนออกจากจีนแล้วกลับเข้าลาว เหมารถตู้จากด่าน
    กลับห้วยทราย เช็คหนังสือเดินทางผ่านแดน แบกเป้ลงเรือข้ามกลับมาฝั่ง เชียงของ บ้านเรา กินอาหารเย็นกันอีกมื้อ ก่อนขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ คงถึงกรุงเทพฯ เช้ามืด กลับบ้านอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานต่อได้เลย

ค่าใช้จ่ายทริปนี้ 28,000 บาท สิบสองวันสิบเอ็ดคืนกับทริปเซอร์ๆ สไตล์คนแบกเป้ เที่ยวพรุนในหยุนหนัน

ค่าใช้จ่ายนี้รวม

- ค่ารถทัวร์วีไอพี รถนอน (Sleeping bus) รถเมล์ รถโฟว์วีลด์ และรถตู้ ทั้งในไทย ลาว และจีน
- ค่าที่พัก (เกสต์เฮาท์ หรือโรงแรม ไม่ระบุดาว พักห้องละ 2 ท่าน) ไม่ได้จองล่วงหน้า
- ค่าอาหารทุกมื้อระหว่างเดินทาง (ไม่รวมค่าเหล้าค่าเบียร์จ่ายกันเองตามอัธยาศัย)
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่ระบุไว้ (ยกเว้นค่ารถไฟฟ้าขึ้นย่าติง เลือกจ่ายกันเองสำหรับคนที่ไม่เดินขึ้นครับ)
- ค่าประกันการเดินทาง

ไม่รวม

- ค่าทำวีซ่าจีน (ค่าขอวีซ่าเล่มละ 1000 บาท ค่าจ้างบริษัทรับทำวีซ่า อีกเล่มละ 300 บาท หรือไปทำเอง)

การทำวีซ่า

  • ไปยื่นกันเอง หรือ นัดรวบรวมมาเพื่อจ้างบริษัทรับไปทำให้ โดยเสียค่าบริการเล่มละ 300 บาท
  • ใช้ภาพถ่ายสองนิ้ว จำนวน 2 ใบ หน้าตรงไม่สวมหมวก พาสปอร์ตมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
  • มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือนก่อนวันเดินทาง
  • ข้อกำหนดใหม่ของสถานทูตจีน หนังสือเดินทางที่เคยใช้เข้าจีนมาแล้วภายใน 2 ปี ไม่ต้องโชว์ยอดเงินในสมุดบัญชีเงินฝากส่วนคนที่ไม่เคยไปจีนมาก่อนเลย จะต้องแนบสำเนาภาพถ่ายสมุดบัญชีหน้าแรกและหน้าสุดท้ายของสมุดบัญชี แสดงให้เห็นยอดเงินในบัญชีอย่างน้อย 4 หมื่นบาท ในการขอวีซ่าหนึ่งครั้ง ตามข้อกำหนดใหม่ของสถานทูตจีน

ยืนยันร่วมเดินทาง

  • โอนเงินค่าทริปเพื่อยืนยันการเดินทางและจองตั๋วรถ กรุงเทพ-เชียงของ จำนวน 5,000 บาท ภายในวันที่ 15 ต.ค. 56 และโอนส่วนที่เหลือจำนวน 23,000 ชำระทั้งหมดใน วันที่ 15 พ.ย. 56 เพื่อแลกซื้อเงินหยวนและ US ดอลล่าร์ไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในจีนระหว่างเดินทาง มายัง บัญชีเลขที่ 001-2-99547-9 ธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์) สาขาชิดลม ชื่อบัญชี กัณฑ์ พักตร์พรหม (โอนแล้วกรุณาโทรแจ้งหรือ SMS มาที่หมายเลข 089-305-3844)
  • หากมีเพื่อนร่วมทางไม่ถึงสิบคน ขออนุญาตปิดทริปครับ (จะโอนเงินจองทริปคืนให้ทั้งหมด ภายในวันที่ 20 ต.ค. 56)

เอกสารที่ใช้ในการเดินทาง

  • พาสปอร์ต (หนังสือเดินทาง) เท่านั้น อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับถึงวันเดินทาง

 
ขอบคุณทริปค้นฝัน http://www.khonbaakpae.com


หน้าที่ :: 13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved